post

ตำนานกอล์ฟไทเกอร์ วูดส์จะกลับมาแข่งขันหรือยังนะ

ยังคงไม่มีวี่แววว่าไทเกอร์ วูดส์จะกลับมาแข่งขันกอล์ฟในสนามใดเร็ว ๆ นี้เนื่องจากปัญหาสุขภาพที่สืบเนื่องมาจากอุบัติเหตุทางรถยนต์เมื่อต้นปีที่ผ่านมา

แฟน ๆ ต่างพากันคิดถึงนักกอล์ฟสัญชาติอเมริกัน หลากเชื้อสายวัย 45 ปี อดีตนักกอล์ฟหมายเลขหนึ่งของโลกสองรอบรวมเป็นเวลา 545 สัปดาห์อย่างไทเกอร์ วูดส์ (เอลดริก ต้น “ไทเกอร์” วูดส์) เนื่องจากเขาหายหน้าหายตาไป หลังประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ในรัฐแคลิฟอร์เนียเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 หลังซิ่ง SUV เร็วกว่า 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมงก่อนแหกโค้งชนต้นไม้โดยไม่แตะเบรกและพลิกคว่ำหลายตลบ ไทเกอร์ วูดส์ก็ได้เข้ารับการผ่าตัดที่ขาขวาและข้อเท้าขวา นี่เป็นอุบัติเหตุทางรถยนต์อย่างน้อยครั้งที่สามของเขา เพราะก่อนหน้านั้นในเดือนพฤษภาคม ปี 2017 เขาก็หลับในเกิดอุบัติเหตุ ตำรวจพบเขาหลับอยู่คารถ ในครั้งนั้นไทเกอร์ วูดส์ได้ออกมาชี้แจงแล้วว่าไม่เกี่ยวกับการดื่มแอลกอฮอล์แต่อย่างใด แต่เป็นเพราะยาแก้อาการนอนไม่หลับและยาแก้ปวดของเขาต่างหาก

“ผมแค่อยากแจ้งให้ทุกท่านทราบว่าไม่เกี่ยวกับแอลกอฮอล์ครับ” ไทเกอร์ วูดส์กล่าวไว้ในครั้งนั้น

นอกจากนี้สถานการณ์ COVID-19 ที่ยังเอาแน่เอานอนไม่ได้ทำให้ทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ พากันเลื่อนไปเลื่อนมา ประกอบกับภาวะสุขภาพ หนุ่มใหญ่ไทเกอร์ วูดส์จึงยังไม่มีกำหนดการแข่งขันใดเร็ว ๆ นี้ รวมถึง PGA Tour ที่แข่งขันกัน 4 วันและมีเงินรางวัลสูงกว่า 11 ล้านดอลลาร์ด้วย

ในเดือนมกราคมก่อนเกิดอุบัติเหตุครั้งล่าสุด ไทเกอร์ วูดส์ได้เผยว่าตนเข้ารับการผ่าตัดกระดูกสันหลังด้วยกล้องเป็นครั้งที่ห้าเพื่อเอาชิ้นส่วนกระดูกสันหลังที่ทับเส้นประสาทออก เป็นสาเหตุที่เขามีอาการบาดเจ็บในการแข่งขัน PNC Championship ในออร์แลนโด รัฐฟลอริดาในเดือนธันวาคม 2020 ซึ่งเป็นครั้งล่าสุดที่เขาได้ลงแข่งขันนั่นเอง

ส่วนทัวร์นาเมนต์สุดท้ายของปี 2021 ของสหรัฐอเมริกาเท่าที่ทราบล่าสุดในขณะนี้นั้นจะเป็นการแข่งขัน Ryder Cup ระหว่างวันที่ 24-26 กันยายน ในรัฐวิสคอนซิน แต่ยังไม่มีข่าวคราวอัปเดตใดจากทางไทเกอร์ วูดส์ หลายฝ่ายคาดว่าเขายังพักรักษาและพักฟื้นตัวอยู่ที่บ้านส่วนตัวในรัฐฟลอริดาและอาจยังไม่สามารถกลับมาแข่งขันใด ๆ ได้ในปีนี้ อย่างไรก็ตามแฟนกอล์ฟสามารถติดตามทัวร์นาเมนต์กอล์ฟอื่น ๆ จากนานาประเทศได้กับ FUN88 Sport รับรองได้เลยว่าคุณจะไม่พลาดแมตช์สำคัญ และได้สนุก ลุ้นกันมันส์อย่างแน่นอน

post

เมื่อการตีกอล์ฟไม่ใช่แค่การออกรอบ แต่เป็นกีฬาที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายสุด ๆ

หากจะมองหางานอดิเรกที่เป็นการเล่นกีฬาสักประเภทหนึ่ง ที่ไม่ต้องกดดันตัวเองมากไป และยังสามารถเล่นกันเป็นแบบครอบครัว ได้ทุกเพศ ทุกวัย ก็คงจะเป็นการตีกอล์ฟนี่แหล่ะ กอล์ฟเป็นกีฬาที่ไม่ต้องออกแรงเยอะ ไม่ต้องวิ่งไกลให้หักโหมร่างกาย แต่กลับเป็นกีฬาที่เสริมบุคลิกภาพให้ดีขึ้น และเป็นการใช้สมาธิได้ดีเยี่ยม เพียงแค่ใช้ร่างกายท่อนแขนในการควงสวิงเพียงวงเดียว เพื่อตีลูกไปยังหลุมเป้าหมาย วันนี้เรามาทำความรู้จักไปกับการออกรอบตีกอล์ฟ กีฬายอดนิยมของไทยกันให้มากขึ้น

จุดเริ่มต้นกีฬากอล์ฟในประเทศไทย

จากข้อมูลตามประวัติ กีฬากอล์ฟได้เข้าสู่ประเทศไทยให้เป็นที่รู้จักกันเมื่อสมัยรัชกาลที่ 5 เริ่มจากเชื้อพระวงศ์ได้ไปศึกษาเล่าเรียนที่ต่างประเทศ แล้วนำกลับมาเผยแพร่ ครั้งแรกมีการเล่นกอล์ฟกันในหมู่สังคมชั้นสูงและชาวต่างชาติ เป็นกิจกรรมไว้เชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างการทูต เพื่อให้มีการผ่อนคลายและกระชับความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ โดยสนามแรกที่ใช้เล่นคือสนามหลวง ทำขึ้นมาเองไม่เพียงกี่หลุม จนเมื่อเข้าสู่ในสมัยรัชกาลที่ 6 ก็เริ่มแพร่หลายกันในหมู่ราชสำนักมากขึ้น มีการสร้างสนามสำหรับการเล่นกอล์ฟสนามแรก 9 หลุม แต่ยังไม่ได้เป็นที่รู้จักของหมู่ประชาชนมากนัก มีแต่ระดับนายใหญ่ ยศสูงและชาวต่างชาติ หน่วยงานทางการทูตเท่านั้น ที่ได้ร่วมเล่นกีฬากอล์ฟด้วยกัน

จนเมื่อสมัยรัชกาลที่ 7 จึงได้เริ่มแพร่หลายสู่ประชาชนมากขึ้น จนถึงปัจจุบันที่มีสนามกอล์ฟที่ใช้ในการแข่งขันในระดับจังหวัด ภาค ระดับประเทศ และสนามกอล์ฟของค่ายทหาร เอกชน ที่เริ่มเปิดบริการให้ประชาชนมาผ่อนคลายเป็นงานอดิเรกและฝึกซ้อม กลายเป็นกีฬายอดนิยมในใจของทั้งผู้หญิงและผู้ชายรวมถึงเด็กตัวเล็ก ๆ ที่ตอนนี้มีการเปิดคอร์สสอนการตีกอล์ฟเบื้องต้น หลายสาขาในประเทศไทย

“กอล์ฟ” เป็นกีฬาที่ให้ประโยชน์แก่ร่างกายอย่างไรบ้าง

อย่างแรกเลย “กอล์ฟ” เป็นการกีฬาที่มีท่วงท่าการควงสวิงที่หลังตรง บิดตัวที่ไม่รุนแรง แต่กลับสง่างาม จึงเป็นกีฬาที่เสริมบุคลิกภาพผู้เล่นให้ดูดีขึ้น นอกจากบุคลิกภาพที่น่ามองแล้ว ยังมีประโยชน์อะไรอีกบ้าง

การเล่นกอล์ฟเป็นการกระตุ้นสมองในการใช้สมาธิเพื่อให้การตีกอล์ฟนั่นแม่นยำ ตีลูกลงหลุม และยังได้กล้ามเนื้อกระชับ เนื่องจากร่างกายหลายส่วนทำงานประสานกัน ทำให้ร่างกายมีความคล่องตัวมากขึ้น แม้จะบอกว่าการตีกอล์ฟไม่ได้ออกแรงเยอะ แต่เมื่อได้มีการออกรอบมากขึ้น ก็มีการเดินจากหลุมหนึ่งไปอีกหลุมหนึ่ง ซึ่งบางคนไม่ใช่รถเลย เน้นการเดินต่อหลุมไปเรื่อย ๆ โดยไม่รู้ตัวว่าเดินไกลมาเท่าไรแล้ว การเดินเปลี่ยนหลุมนี้แหละที่จะช่วยเผาผลาญพลังงาน นอกจากร่างกายจะกระชับแล้ว น้ำหนักตัวยังลดลงอีกด้วย

กีฬากอล์ฟนอกจากจะเป็นกิจกรรมที่สามารถใช้เวลาอยู่กับครอบครัว สร้างความสุขแล้ว ยังสร้างความสัมพันธ์ที่ดีต่อคนรอบข้างของเรา ไม่ว่าจะเป็นเพื่อนฝูง หรือเพื่อนร่วมงาน เพราะเป็นกีฬาที่ไม่ต้องใช้อารมณ์รุนแรงในการเล่น แต่เป็นการใช้สมาธิ ช่วยให้ผ่อนคลาย สร้างสุขภาพจิตที่ดี และได้พูดคุยกันมากขึ้นอีกด้วย

post

เทคนิคการเล่นแบดมินตันให้เก่ง และมีทักษะหลอกคู่ต่อสู้

กีฬาแบดมินตันเป็นกีฬาที่มีมาอย่างยาวนานพันกว่าปีมาแล้ว แต่ก็ไม่ได้มีประวัติแน่ชัดถึงที่มาของกีฬานี้ ว่าจุดเริ่มต้นมาจากประเทศอะไรกันแน่ แต่ก็ได้รับความนิยมอย่างแพร่หลาย จนกลายเป็นกีฬาระดับชาติ ที่ทุก ๆ ครั้งที่มีการจัดการแข่งขันกีฬาระหว่างประเทศ กีฬาแบดมินตันก็เป็นหนึ่งไฮไลท์ของการแข่งขันเพื่อเก็บเหรียญของนักกีฬาทีมชาติ นักกีฬาทีมชาติของไทยเราเองก็เช่นกัน ที่สามารถคว้าเหรียญทองให้เป็นหน้าเป็นตาแก่ชาวไทย วันนี้เราจะมาพูดถึงเทคนิคในการเล่นแบดมินตัน ที่แม้แต่มือสมัครเล่นก็ฝึกให้เก่งเทียบมืออาชีพได้ เอาละ มาดูกันเลย

จุดอ่อนของนักแบดมินตันมือใหม่

ก่อนที่เราจะมารู้เทคนิคในการเล่นแบดมินตันให้เก่ง มารู้จุดอ่อนของมือสมัครเล่นหน้าใหม่ก่อน ว่ามีข้อบกพร่องอะไรบ้าง จะได้แก้ไข ปรับเปลี่ยนท่าเพื่อพัฒนาให้กลายเป็นมือโปรได้

นักตีแบดมือใหม่มักจะยืนขาตาย เมื่อลูกโยนมาแต่อยู่ไกลก็มักจะเอื้อมมือไปตีมากกว่า โดยแค่คิดว่าตีโดน แขนถึงก็โอเค แต่แรงเหวี่ยงมันจะไม่ได้ ลูกที่เด้งกลับไปมักจะเป็นลูกที่เบาแรง พร้อมโดนสวนกลับมาแรง ๆ ได้ทันที และอีกข้อหนึ่งของการยืนขาตายคือ เมื่อมีการตีลูกเสร็จ มักจะรอดูผลงานของตัวเอง ยืนยิ่ง ๆ แบบนั้น ไม่รีบเข้ามาคุมพื้นที่ เพราะกีฬาแบดมินตัน เป็นการตีโต้ตอบอย่างรวดเร็ว ไม่มีหยุดพักจนกว่าฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งจะทำลูกตกพื้น หรือตีลูกพ้นนอกคอร์ท การยืนขาตายอยู่แบบนั้น เป็นการเปิดโอกาสให้ฝ่ายตรงข้ามเห็นช่องว่างที่จะตีสวนกลับ หากวิ่งมารับไม่ทันก็เสียคะแนนทันที

เทคนิคการเล่นแบดมินตันให้เก่งขึ้น

การจะเป็นนักแบดมินตันให้เก่งระดับนักกีฬาทีมชาติ หรือครูอาจารย์ผู้สอนนั้น นอกจากจะมาจากประสบการณ์การตีแบดมานานหลายปีแล้ว ปัจจัยเรื่องของระยะเวลาไม่ได้มีผลมากนัก สมมติดำ มีประสบการณ์การเล่น 3 ปี ซึ่งน้อยกว่าขาว อยู่ 2 ปี แต่หากดำ มุ่งมั่นตั้งใจและฝึกฝนประจำ แถมยังรู้เทคนิคและใช้โต้ตอบคู่ต่อสู้ ได้ลงสนามบ่อยกว่าขาว การใช้ระยะเวลามาวัดความเก่งกัน มันก็ไม่ได้เป็นแบบนั้นเสมอไป

จากที่เราได้พูดถึงข้อบกพร่องในเรื่องการยืนขาตาย เทคนิคและวิธีการเล่นที่ถูกต้องการกีฬาแบดมินตันคือการเคลื่อนไหวอยู่ตลอดเวลา อย่างรวดเร็ว เพื่อให้ไม่เปิดช่องว่างให้ฝ่ายตรงข้ามตีลูกลงมา สายตาและการโฟกัสจะต้องจดจ่อว่าลูกจะไปในทิศทางใด พร้อมทั้งสังเกตท่วงท่า นักกีฬาที่เก่งจริง จะตีความจากท่าออกว่าลูกจะถูกตีกลับในลักษณะใดได้บ้าง จึงทำให้สามารถรับและตีกลับสวนได้ทันที

เทคนิคการตบลูกในการเล่นคู่ คือฝ่ายละ 2 คนอีกวิธีหนึ่งคือ เวลาที่ตบลูกไปที่คนใด ให้ย้ำที่คนเดิม สองคนช่วยกันรุมวิธีนี้เรียกว่าลูกตบไล่ อีกหนึ่งเทคนิคคือ ให้ตบลูกลงตรงกลางระหว่างผู้เล่นทั้งสอง จะทำให้รับยากมากขึ้น หรือไม่ว่าจะเป็นการทำลูกหยอดใกล้ตาข่าย แต่แกล้งว่าจะตบแรง ที่หลอกฝ่ายตรงข้ามให้ตายใจว่าจะตีลูกแรง

กีฬาแบดมินตันถือว่าเป็นกีฬาศิลปะอย่างหนึ่ง ที่มีลูกเล่นในการหลอกล่อและตีลูกกลับได้หลายสไตล์ ทั้งแบบเบา ๆ และรวดเร็ว แต่กว่าจะเก่งได้ขนาดนักกีฬาระดับชาติ ก็ต้องมีการฝึกฝนอย่างหนัก และลงสนามบ่อย ๆ กล้าที่จะเรียนรู้ทั้งแพ้และชนะ ไม่มีเทคนิคอะไรที่ยากเกินไป แค่มีความมั่นใจ ไม่กลัวคู่ต่อสู้ และมีสมาธิแค่นั้นเอง

post

“แข่งรถยนต์” กีฬาสำหรับคนรักความเร็ว

ถ้าจะให้พูดถึงกีฬาที่ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นในการวางเดิมพันในประเทศไทยตอนนี้แล้ว หนึ่งในก็คือ “กีฬาแข่งรถ” เป็นกีฬาที่มีความแข่งขันกันด้วยความเร็ว ตื่นเต้นและเร้าใจ ที่มีเครื่องยนต์เป็นองค์ประกอบหลัก พร้อมโชว์ทักษะการขับรถยนต์ด้วยความเร็ว ผ่านโค้ง บนถนนที่ต่างระดับบ้าง กีฬาชนิดนี้ได้รับความนิยมทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ มีการจัดการแข่งขันในรายการทีวีหลายค่าย และมีผู้คนที่ให้ความสนใจวางเดิมพันและคอยติดตามข่าวสารอยู่ตลอด วันนี้เราอยากจะมาพูดถึงเกี่ยวกับประเภทการแข่งขันรถยนต์ และประโยชน์ที่ได้รับจากกีฬาแข่งรถยนต์ เผื่อใครสนใจกีฬาชนิดนี้อยู่ จะได้รู้ไว้เป็นข้อมูล

ประเภทของการแข่งขันรถยนต์

หากเคยติดตามรายการแข่งขันรถยนต์กันมาบ้าง ก็พอจะสังเกตได้ว่ามีการแข่งขันหลายประเภท และต้องใช้ทักษะจากการฝึกประสบการณ์มาอย่างเข้มข้น มีอะไรบ้างนั้น มาดูกันเลย

1. การแข่งยิมคาน่า

การแข่งประเภทนี้จะไม่ดูหวือหวาสักเท่าไร ส่วนมากจะเป็นรถบ้านทั้งนั้น ยิมคาน่าคือการแข่งที่ทำเวลาน้อยที่สุด บนทางที่เต็มไปด้วยทางโค้งและแคบ ผู้แข่งขันจะทำความเร็วได้ในระดับปานกลางและต่ำเท่านั้น

2. การแข่งแดร็ก

เป็นการแข่งความเร็วที่ไม่มีกติกาซับซ้อนเลย หัวใจหลักของการแข่งประเภทนี้คือ การชิงไหวชิงพริบและเป็นการขับทางตรงในระยะ 402.34 เมตร โดยจับเวลาแข่งรอบละ 1 คู่ ปล่อยทีละ 2 คัน ใครไปถึงเส้นชัยก่อนคันนั้นชนะ

3. การแข่งดริฟต์

เน้นลีลาในการเข้าโค้งให้รถเกิดอาการท้ายปัด หรือเรียกว่าโอเวอร์สเตียร์ ผลแพ้ชนะไม่ได้นับที่ความเร็วในการถึงเส้นชัย แต่จะนับคะแนนในการเข้าโค้งที่สวยงาม ลูกเล่นต่าง ๆ และไม่หลุดไลน์โค้ง

4. การแข่งเซอร์กิต

นิยามของการแข่งประเภทนี้คือ การบริการล้อยางและน้ำมันเชื้อเพลิงให้คุ้มค่าที่สุด สนามจะมีทั้งทางตรงเรียบและโค้ง บริหารเวลาให้เร็วที่สุด ใช้ไหวพริบในการแซงและการเข้าโค้ง

5. การแข่งแรลลี่

การแข่งประเภทนี้จะดูแตกต่างข้อ 1 – 4 ทั้งหมด เพราะสนามแข่งขันจะเต็มไปด้วยทางขรุขระและดินที่เปื้อนโคลน สลับกันทางเรียบเพื่อทำคะแนน ผู้แข่งขันต้องมีความชำนาญมากพอในเส้นทางทุรกันดาน การแข่งจะมีอยู่ 2 คน คือ ผู้ขับและผู้นำทาง

ประโยชน์ของกีฬาแข่งรถยนต์

1. ในตัวของผู้แข่งขันคือได้ทักษะในการขับรถเพิ่มขึ้น ไม่ว่าจะเป็นสนามที่มีความแตกต่างกันทั้งพื้นต่างระดับ ทางโค้งที่ไม่จำกัด กีฬานี้สามารถสร้างรายได้มหาศาลและชื่อเสียงให้กับนักแข่งด้วย

2. สำหรับบริษัทรถยนต์ส่วนมากที่ผลิตรุ่นใหม่ ๆ ออกมา ก็มักจะมีการทดสอบสมรรถนะของรถยนต์บนสนามแข่งรถยนต์ ซึ่งในการจัดแข่งขันในแต่ละครั้งก็เหมือนเป็นการเปิดโอกาสมุมมองใหม่ ๆ ในการผลิตรถยนต์ที่มีความเร็วพร้อมกับสมรรถนะที่ดีด้วย

3. ในแง่ของเศรษฐกิจระหว่างประเทศ เมื่อกีฬาแข่งรถยนต์ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นและมีผลตอบรับดีจากการแข่งขัน ยิ่งทำให้บริษัทที่จัดแข่งรถของต่างประเทศ เข้ามาสนับสนุนและลงทุนกีฬาแข่งรถในประเทศไทยเพิ่มมากขึ้น

แม้จะเป็นกีฬาที่ได้รับความสนใจ เพราะมีความตื่นเต้น สนุก มันส์ก็ตาม แต่ก็มีความเสี่ยงในเรื่องของอันตรายสูงพอสมควร สำหรับมือใหม่ที่อยากโลดแล่นอยู่ในวงการแข่งรถ ก็ควรจะฝึกทักษะให้ชำนาญ ไม่ควรประมาท และในการฝึกซ้อมควรฝึกในสนามสำหรับแข่งรถยนต์เท่านั้น

post

จุดกำเนิดของการวิ่งมาราธอน

กิจกรรมการออกกำลังกายในที่แจ้ง แบบไร้อุปกรณ์ตัวช่วยใด ๆ แต่มีความชิวสบาย นั่นคือการวิ่งนั่นเอง ไม่มีพิธีรีตองอะไรมาก แค่เตรียมกำลังใจและความพร้อมของร่างกายเท่านั้นเอง แต่สำหรับวันนี้เราจะมาพูดถึงการวิ่งมาราธอน ซึ่งเป็นการวิ่งที่ไม่ได้เน้นความเร็ว แต่โฟกัสที่ระยะทาง และความอึดของร่างกายเท่านั้น เอาละถ้าพร้อมแล้วเรามาดูประวัติของกีฬาวิ่งมาราธอน กับการเตรียมตัวให้พร้อมสำหรับการวิ่งระยะไกลกันเลย

จุดกำเนิดของกีฬาวิ่งมาราธอน

ที่มาของการวิ่งมาราธอนนี้ก็คือ การยกย่องชาวเอเธนส์เมื่อครั้งสู้รบกับชาวเปอร์เซีย ที่ต้องการจะยึดครองยุโรป และจัดกำลังทหารกองพลที่เมืองมาราธอน แต่ด้วยชาวกรีกมีความชำนาญในพื้นที่มากกว่า จึงได้เปรียบและต่อสู้รบชนะชาวเปอร์เซียได้ Pheidippides (ฟีดิปปิเดซ) ทหารชาวกรีก ได้รับมอบหมายให้ส่งข่าวการรบชนะไปยังเอเดนส์ เขาวิ่งตลอดทาง และด้วยความเหนื่อยล้าจากการรบ กับระยะทางที่ไกลตลอด 40 กิโลเมตร ร่างกายจึงช็อคและก่อนที่จะเสียชีวิต เขาก็ได้ตะโกนออกมาว่า “ชัยชนะ” เมื่อถึงหน้าเมืองเอเธนส์พอดี

จากนั้นต่อมา ก็ได้มีการจัดการแข่งขันวิ่งมาราธอนครั้งแรกของโลกในกีฬาโอลิมปิกเมื่อปี 1896 ที่เมืองเอเธนส์ โดยใช้ระยะทางเดิมจากเมืองมาราธอนมายังเมืองเอเธนส์ ที่ฟิดิปปิเดซส่งสารในครั้งนั้น เพื่อเป็นระลึกถึงชัยชนะและคุณงามความดีของผู้ส่งสาร

เตรียมความพร้อมก่อนวิ่งมาราธอน

1. เตรียมร่างกายให้คุ้นชินก่อน เพราะการวิ่งมาราธอนเป็นการวิ่งในระยะไกล สำหรับมือใหม่นักวิ่ง จะต้องมีการซ้อมเพิ่มระยะในทุกวันก่อนที่จะลงสนามจริง เพราะอาจเกิดการบาดเจ็บในร่างกายระหว่างการวิ่งและหายใจหอบถี่ได้

2. ยืดกล้ามเนื้อสม่ำเสมอ ให้เส้นผ่อนคลาย เตรียมพร้อมความฟิตในการวิ่งทุกครั้ง เสมือนเป็นการวอร์มให้ร่างกายเกิดความอบอุ่น และช่วยลดอาการบาดเจ็บของร่างกายและช่วยให้สมรรถนะในการวิ่งดีขึ้นอีกด้วย

3. เสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อด้วย เพื่อให้มีความทนทาน ไม่เมื่อยล้าเร็ว ด้วยการออกกำลังกายง่าย ๆ อย่างเช่น การวิดพื้น การเล่นเวท ต่อยมวย ว่ายน้ำ ปั่นจักรยาน

4. เพิ่มระยะการวิ่งอย่างเป็นสเต็ป จริง ๆ แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการวิ่งระยะใด นักวิ่งควรจะเพิ่มระยะการวิ่งอย่างค่อยเป็นค่อยไป ไม่ควรเกิน 10% ต่อสัปดาห์

5. การพักผ่อนให้เพียงพอ ควรพักผ่อนให้เต็มที่ในแต่ละวัน และผ่อนคลายกับกิจกรรมต่าง ๆ เช่น การไปเที่ยว จัดสวน ทำอาหาร งานอดิเรกที่ชอบ เพื่อลดความกดดันจากการฝึกซ้อมวิ่งหนัก ๆ ให้ร่างกายรู้สึกกระปรี้กระเปร่า ไม่งั้นจะพาลเสียสุขภาพจิตได้ง่าย

นอกจากนี้ก่อนการลงสนามวิ่งมาราธอนจริง ควรจะให้ร่างกายได้พักก่อนหนึ่งวัน อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 6 ชั่วโมง  เพื่อให้ร่างกายฟื้นฟูอย่างเต็มที่ และให้กล้ามเนื้อได้พัก สำหรับการเตรียมพร้อมในวันพรุ่งนี้ จะได้วิ่งมาราธอนอย่างสบาย และไม่เกิดอาการเจ็บปวดในร่างกาย เสร็จจากภารกิจนี้ ได้สุขภาพที่ดีกลับมาด้วยนะ

post

มารู้จักกีฬาตีลูกโต้ กับปิงปองกีฬาที่คนไทยนิยมเล่นกัน

กีฬาปิงปอง เป็นกีฬาที่ต้องใช้ไหวพริบและความคล่องแคล่วของร่างกายเพื่อรับ-ส่งลูกระหว่างผู้เล่นด้วยกันเอง และเป็นกีฬาที่ให้ความสนุกสนานในหมู่คณะ เป็นที่นิยมในสากล จนกลายเป็นหนึ่งในกีฬาที่ใช้แข่งขันในระดับโลก ถือว่าเป็นกีฬาที่มีความยากระดับหนึ่ง ที่ผู้เล่นทั้งสองฝ่ายต้องตีลูกโต้กัน ข้ามตาข่ายและให้ลูกตกบนพื้นโต๊ะเพียงหนึ่งครั้งเท่านั้น วันนี้เรามาดูประวัติที่มาและวิธีการเล่นของกีฬาชนิดนี้กันเพื่อให้ได้เข้าใจและรู้จักปิงปองกันมากขึ้น

ประวัติกีฬาปิงปอง

ตามข้อมูลที่มาของกีฬาประเภทนี้ เริ่มต้นขึ้นในประเทศอังกฤษ เมื่อปี ค.ศ. 1890 เริ่มแรกอุปกรณ์ที่ใช้เล่นในครั้งนั้น จะเป็นไม้ตีที่หุ้มด้วยหนังสัตว์ ส่วนลูกที่ใช้ตีจะเป็นลูกเซลลูลอยด์ (มีลักษณะเป็นของแข็ง ติดไฟง่ายมาก) เวลาที่ตีลูกกระทบพื้นแล้วจะดัง “ปิ๊กป๊อก” เลยเป็นที่มาของชื่อกีฬา “ปิงปอง” ต่อมาจึงเริ่มวิวัฒนาการเปลี่ยนมาเป็นแผ่นไม้อย่างปัจจุบัน และเริ่มแพร่หลายในโซนยุโรปก่อนที่จะเริ่มเข้าสู่เอเชีย

มาตรฐานของอุปกรณ์กีฬาปิงปองคือ

ส่วนแรกในเรื่องของโต๊ะ กำหนดให้เป็นรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้า จะต้องมีความกว้าง 1.525 เมตร (5 ฟุต) ความยาว 2.74 เมตร (9 ฟุต) และความสูงจะต้องได้ระดับอยู่ที่ 76 เซนติเมตร (2 ฟุต 6 นิ้ว) โดยวัดจากพื้นที่ตั้งจนถึงพื้นผิวของโต๊ะ

 ในเรื่องของตาข่าย จะต้องขึงตึง มีความสูงจากพื้นผิวโต๊ะ 15.25 เซนติเมตร (6 นิ้ว) ส่วนลูกปิงปองจะต้องมีเส้นผ่าศูนย์กลาง 40 มิลลิเมตร และมีน้ำหนักเบาเพียง 2.7 กรัม สำหรับการแข่งขันมาตรฐานสากล การแข่งขันจะใช้ตาข่ายและลูกปิงปองที่มียี่ห้อที่ได้รับการรับรองจากสหพันธ์เทเบิลเทนิสนานาชาติ (ITTF) เท่านั้น และมีการระบุสีของลูกปิงปองที่ใช้ในการแข่งขันทุกครั้งด้วย

วิธีการเล่นกีฬาปิงปองหรือเทเบิลเทนนิส

1. ในการส่งลูก โยนลูกจากฝ่ามือขึ้นกลางอากาศ สูงไม่น้อยกว่า 16 เซนติเมตร

2. ในการรับลูก เมื่อลูกถูกส่งมาข้ามตาข่าย ลูกจะต้องตกถึงพื้นโต๊ะเพียงครั้งเดียวเท่านั้น แล้วจึงรีบตีโต้กลับให้ข้ามตาข่ายไปยังฝั่งตรงข้าม

3. กรณีการเสียคะแนนหรือต้องมีการเสิร์ฟลูกใหม่คือ การตีโต้กลับติดตาข่ายและการตีลูกไม่ตกถึงพื้นฝ่ายตรงข้าม

4. การนับคะแนน หากผู้เล่นฝ่ายใดทำผิดกติกาจะเสียคะแนนทันที และผู้เล่นที่ทำคะแนนได้ถึง 11 คะแนนก่อนจะเป็นฝ่ายชนะ เว้นแต่ว่าจะทำคะแนน 10 คะแนนเท่ากันจะต้องเล่นต่อไปจนกว่าจะมีผู้เล่นฝ่ายใดทำแต้มได้ถึง 11 คะแนน

5. การแข่งขันจะมีสองประเภทคือ ประเภทเดี่ยวและประเภทคู่

ทั้งนี้กีฬาปิงปอง จะต้องรับได้การฝึกฝนจนชำนาญ เพราะต้องมีทักษะทางร่างกาย ไม่ว่าจะเป็น สายตาที่โฟกัสลูกปิงปองและการจับไม้ตีของลูกฝ่ายตรงข้ามว่าจะโต้มาลักษณะใด จึงจะโต้รับได้ถูกต้อง รวมไปถึงสมองที่ต้องไว เพราะต้องคิดวางแผนอย่างรวดเร็ว เพื่อเอาชนะอย่างฉับพลัน และในส่วนของข้อมือจะต้องมีความแข็งแรง เพราะต้องใช้ทักษะการหมุนข้อมือเพื่อให้ลูกหมุนเร็วมากยิ่งขึ้น

post

ปั่นจักรยาน กีฬาสุดโปรดของคนรุ่นใหม่

จากพาหนะที่ไม่ใช้มอเตอร์หรือเครื่องยนต์ที่ช่วยเป็นทุ่นแรงในการเคลื่อนที่ จักรยานที่เราต่างคุ้นเคยกันและใช้เป็นพาหนะสมัยเด็ก ๆ สู่ปัจจุบันได้ก้าวเข้าสู่กีฬาระดับโลก ที่มีนักปั่นจักรยานชาวไทยได้ร่วมแข่งขันและคว้าเหรียญทองในรอบเอเชียนเกมส์กันมาแล้ว ครั้งที่ 30 เมื่อปี พ.ศ 2561 ที่ผ่านมา และยังเป็นกีฬาที่ได้รับความนิยมของคนรุ่นใหม่ ไม่ว่าจะเป็นวัยไหนก็นิยมหันมาปั่นจักรยานเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น วันนี้เราจะนำเกร็ดข้อมูลเกี่ยวกับกีฬาปั่นจักรยานมานำเสนอ เป็นความรู้ประดับสมอง ดูสมาร์ทขึ้น

จุดเริ่มต้นของกีฬาปั่นจักรยาน

กีฬาปั่นจักรยานได้เริ่มต้นขึ้นที่เมืองรูออง ประเทศฝรั่งเศส ในปี ค.ศ. 1834 ที่ได้มีการจัดแข่งขันการปั่นจักรยาน และแชมป์คนแรกในครั้งนั้น คือ เจมส์ มัวร์ (James Moore) นักปั่นชาวอังกฤษ และต่อมาในปี ค.ศ. 1900 ก็ได้มีการก่อตั้งสหพันธ์จักรยานนานาชาติ หรือ U.C.I. (Union Cycling International) หรือชื่อภาษาฝรั่งเศส Union Cycliste Internationale โดยฝรั่งเศสเป็นประธานสหพันธ์รายแรก ณ ที่กรุงปารีส เมื่อวันที่ 14 เมษายน 1900 (พ.ศ. 2443)

กีฬาปั่นจักรยานได้ถูกบรรจุเข้าเป็นหนึ่งในการแข่งขันกีฬาเอเชียนเกมส์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1951 และต่อมาในปี ค.ศ. หรือ พ.ศ. 2502 ประเทศไทยได้รับเกียรติให้เป็นเจ้าภาพในการแข่งขันกีฬาแหลมทอง ครั้งที่ 1 จัดขึ้นในกรุงเทพมหานคร ในครั้งนี้ประเทศไทยจึงได้ก่อตั้งสมาคมจักรยานขึ้น เนื่องจากการจะจัดการแข่งขันกีฬาจักรยานได้นั้น จะต้องเป็นสมาชิกองค์กรสหพันธ์จักรยานแห่งนานาชาติ หรือ UCI

ประเภทของการแข่งขันกีฬาจักรยาน

การแข่งขันจักรยานภายในหรือประเภทลู่

การแข่งขันประเภทนี้จะแข่งขันในเวโลโดรมเป็นหลัก ผู้คนมักจะให้ความสนใจน้อย เพราะขาดความตื่นเต้นและเร้าใจ ไม่เหมือนกับการแข่งขันปั่นจักรยานในสนามแจ้ง แต่ต่างประเทศนิยมกันมาก และมีการจัดแข่งขันถ่ายทอดกันทางโทรทัศน์อยู่เสมอ

การแข่งขันจักรยานประเภทถนน

จะต้องใช้ความอึด และพละกำลังอย่างเต็มที่สำหรับการปั่นประเภทนี้ เพราะเป็นการปั่นกันเป็นกลุ่ม โดยผู้จัดการแข่งขันประเภทถนนนี้ต้องการให้เห็นถึงสมรรถนะของจักรยานที่สามารถปั่นได้ในระยะยาวหลายชั่วโมง

การแข่งขันจักรยานแบบเสือภูเขา

องค์ประกอบหลักคือจะต้องเป็นลักษณะการแข่งในเส้นทางที่เป็นขึ้นลงเนิน ในทุ่งและป่า ยางมะตอยและทางเรียบ โดยนักปั่นจะต้องมุ่งที่เส้นชัย โดยไม่สนสภาพดินฟ้าอากาศใด ๆ ทั้งสิ้น

การแข่งขันจักรยานแบบบีเอ็มเอ็กซ์หรือจักรยานวิบาก

การแข่งขันประเภทนี้ นักปั่นจะต้องเอาชนะอุปสรรคของเส้นทาง ไม่ว่าจะเป็น สิ่งกีดขวางหลายชนิด เส้นทางที่โค้งอันตราย และสนามแข่งที่กะทัดรัด ให้นักปั่นได้ฝ่าฝันกว่าจะไปถึงจุดเส้นชัย

การปั่นจักรยานนอกจากจะเป็นการออกกำลังกายช่วงล่างของร่างกายช่วง ขา เอว สะโพก ได้เป็นอย่างดีแล้ว ยังช่วยในเรื่องระบบหายใจให้มีประสิทธิภาพดีขึ้น และการปั่นจักรยานยังเพิ่มระดับฮอร์โมนแอนดอร์ฟิน สารแห่งความสุข ลดความเครียด แถมยังช่วยเผาผลาญไขมันได้เป็นอย่างดี สร้างกล้ามเนื้อขาให้เรียวกระชับขึ้น

post

กีฬาว่ายน้ำ บริหารปอด ได้สุขภาพดี

ถ้าพูดถึงการว่ายน้ำ น้อยคนนักที่จะว่ายน้ำไม่เป็น การว่ายน้ำเป็นศิลปะอย่างหนึ่ง ในสมัยอดีตบรรพบุรุษที่ตั้งรกรากอยู่ใกล้ทะเลหรือแม่น้ำ จะใช้การว่ายน้ำในการหาอาหาร เช่น ปลา หอย หรือสัตว์ทะเลอื่น ๆ การว่ายน้ำในสมัยก่อนยังเป็นการป้องกันตัวจากภัยธรรมชาติ การหลบหลีก การว่ายข้ามฝั่ง จนมาสู่ปัจจุบันกลายมาเป็นกีฬาว่ายน้ำที่ผู้คนนิยมและให้ความสนใจกันมาก เพราะมองว่าเป็นการออกกำลังกายอย่างหนึ่ง ในยิมหรือฟิตเนสก็จะมีสระว่ายน้ำไว้คอยบริการ และยังมีโรงเรียนเปิดสอนว่ายน้ำสำหรับเด็กผุดขึ้นมาอีกหลายที่ด้วยในปัจจุบัน

ท่าว่ายน้ำ 4 ท่าหลัก ๆ

1. การว่ายแบบฟรีสไตล์ เป็นการว่ายที่เร็วที่สุด และไม่จำกัดท่า โดยนอนคว่ำหน้าลงในน้ำ และหมุนแขนทั้งสองข้างผ่านน้ำอย่างต่อเนื่อง ขาจะต้องเตะขึ้นลงเพื่อให้สัมพันธ์กับแขน และพาตัวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว ส่วนการหายใจให้หายใจเมื่อหน้าหมุนไปด้านข้าง

2. การว่ายแบบกรรเชียง เป็นท่าที่ง่ายกว่าท่ากบและท่าผีเสื้อ เพราะเป็นการนอนหงาย หายใจได้สะดวกกว่า แต่จะไม่สามารถมองเห็นข้างหน้า ท่านี้ไม่ค่อยนิยมในหมู่นักว่ายน้ำสักเท่าไร แต่ก็ถูกบรรจุให้เป็นท่าในการแข่งขันกีฬา

3. การว่ายแบบกบ เป็นท่าที่ต้องอาศัยความแข็งแรงของร่างกายช่วงล่างตั้งแต่ข้อเท้าไปจนถึงสะโพก เป็นการใช้กำลังขามากกว่ากำลังแขนในการเคลื่อนที่ไปข้างหน้าถึง 70 % การว่ายท่ากบเป็นท่าว่ายน้ำที่ต้องใช้ความระมัดระวัง เพราะใช้ความรวดเร็วของกำลังขา หากกระชากหัวเข่าผิดจังหวะ ก็อาจทำให้บาดเจ็บได้

4. การว่ายแบบผีเสื้อ การว่ายน้ำท่านี้จะต้องใช้กำลังมากที่สุด มีความเร็วเป็นอันดับสองจากท่าฟรีสไตล์ และถ้าหากว่ายเก่งจนชำนาญสามารถที่จะว่ายท่าผีเสื้อจี้ติดไล่ท่าฟรีสไตล์ได้เลย ท่านี้จะต้องเป็นคนที่มีกล้ามเนื้อหัวไหล่แข็งแรง รวมถึงกล้ามเนื้อหน้าอกและขา เราจะสังเกตเห็นนักกีฬาว่ายน้ำประเภทนี้ ที่มีหุ่นเหมือนสามเหลี่ยมกลับหัว

ประเภทของกีฬาว่ายน้ำ ที่ใช้ในการแข่งขัน

ท่าฟรีสไตล์ 50, 100, 200, 400, 800 และ 1,500 เมตร 

ท่ากรรเชียง 100 และ 200 เมตร

ท่ากบ 100 และ 200 เมตร

ท่าผีเสื้อ 100 และ 200 เมตร

เดี่ยวผสม 200 และ 400 เมตร 

ผลัดฟรีสไตล์ 4 x 100 และ 4 x 200 เมตร

ผลัดผสม 4 x 100 เมตร

ประโยชน์ต่อสุขภาพของการว่ายน้ำ

การว่ายน้ำเป็นการบริหารทุกส่วนของร่างกาย ทำให้เลือดสูบฉีดไปหล่อเลี้ยงอวัยวะอย่าง แขน ขา ได้เต็มที่ ทั้งยังได้ฝึกการหายใจที่ดีต่อปอด การว่ายน้ำเป็นประจำยังช่วยชะลอความชราก่อนวัยอันควร และลดความเสี่ยงโรคหัวใจ กล้ามเนื้อตาย การว่ายน้ำยังต้องต่อสู้กับแรงเสียดทานของน้ำ เพียงแค่ว่ายน้ำ 30 นาที เท่ากับการออกกำลังบนบก 1 ชั่วโมง จึงใช้เวลาในการเผาผลาญแคลอรี่ได้น้อย แต่ได้ผลกว่ามาก

สำหรับใครที่อยากจะว่ายน้ำและเลือกวิธีออกกำลังกายด้วยการว่ายน้ำ ควรจะเลือกสถานที่ที่มีความปลอดภัยและมีมาตรฐานในการรักษาความสะอาด เพราะสระว่ายน้ำสาธารณะที่เปิดให้บริการ ย่อมมีผู้คนมากหน้าหลายตาเข้ามาปะปนว่ายในสระเดียวกัน เสี่ยงต่อเชื้อโรคและจุนลินทรีย์ต่าง ๆ และไม่ควรใช้เวลาในการว่ายน้ำนานเกินไป หากคนที่มีโรคประจำตัวหรือไวต่อความชื้น อาจทำให้ไม่สบายได้

post

กีฬายกน้ำหนัก จอมพลัง สุดยอดของความแข็งแกร่ง

ยกน้ำหนัก ได้ถูกจัดให้เป็นกีฬาประเภทหนึ่งที่ใช้พละกำลังในการยกก้อนน้ำหนักทั้งสองข้างที่ถ่วงอยู่บนคานเหล็กทั้งสองข้าง ตัดสินผลแพ้ชนะโดยผู้ที่ยกน้ำหนักได้มากกว่า กีฬาประเภทนี้ไม่ใช่ประเภทที่จะใช้ออกกำลังกายกันได้ง่าย ๆ แต่เห็นจะมีใกล้เคียงก็คือการยกเวทในยิมสำหรับผู้ชายที่เล่นกล้าม เพื่อเพิ่มกล้ามเนื้ออกให้ดูแน่น และร่างกายช่วงบริเวณอกดูหนา ตัวใหญ่ขึ้น แต่ก็ไม่ใช่น้ำหนักที่มากเหมือนที่กำหนดไว้สำหรับการแข่งขัน เรามาดูรายละเอียดของกีฬาประเภทนี้กันดีกว่า ว่ามีที่มาอย่างไร และการแข่งขันมีกติกาอย่างไรบ้าง

ที่มาของกีฬายกน้ำหนัก

แต่เดิมตามประวัติแล้ว ไม่ได้เป็นกีฬามาก่อน แต่เป็นการแสดงถึงความแข็งแกร่งของคนในหมู่บ้านของผู้ชายในยุคโบราณ ซึ่งการยกของหนักโชว์พลังนี้ สื่อความหมายไปในทางเกี้ยวพาราสีให้กับผู้หญิงด้วย เพราะความแข็งแกร่งของผู้ชายสมัยอดีต หมายถึงการมีภาวะผู้นำ ความแข็งแกร่ง ดูแลครอบครัวและปกป้องคนที่รักได้ด้วย การวัดความแข็งแกร่งในสมัยนั้นมีหลายแบบ ไม่ว่าจะเป็น การแบกกระสอบทราย การยกหิน การยกเหล็ก ทุ่มเหล็ก เป็นต้น ต่อมาจึงได้วิวัฒนาการเป็นเป็นแบบคานเหล็ก ที่มีลูกเหล็กถ่วงคานทั้งสองข้างไว้ โดยจะมีการเพิ่มน้ำหนักของลูกเหล็กให้จนกว่าจะยกธงขาว

ในประเทศไทยได้ก่อตั้งสมาคมกีฬายกน้ำหนักสมัครเล่นแห่งประเทศไทย เมื่อปี พ.ศ. 2501 โดยมีวัตถุประสงค์เผยแพร่กีฬายกน้ำหนัก และสนับสนุนให้เยาวชนหันมาสนใจกีฬายกน้ำหนักกันมากขึ้น จนปัจจุบันทำให้มีนักกีฬายกน้ำหนักฝึกซ้อมเพื่อแข่งขันในเอเชียนเกมส์ โอลิมปิก และระดับโลกเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่วนการแข่งขันโอลิมปิกที่ผ่านมา ก็มีนักกีฬายกน้ำหนักชาวไทย คว้าเหรียญทองมาครอง สร้างชื่อเสียงและเป็นเกียรติให้แก่ประเทศไทย

กติกาของกีฬายกน้ำหนัก

1. อนุญาตให้จับแบบฮุคได้ คือการจับคานหามลูกเหล็ก โดยใช้นิ้วมือกดข้อปลายหรือข้อสุดท้าย

2. ในการตัดสินว่ายกไม่ผ่าน ต้องให้นักกีฬายกคานเหล็กถึงระดับเข่าแล้วก่อนที่จะให้มีผลว่ายกไม่สำเร็จ

3. หลังจากมีสัญญาณจากผู้ตัดสินให้ยกคานลงพื้นแล้ว ให้ลดคานลงมาระดับเอวด้านหน้าของตน ห้ามมีการโยนหรือกระแทกลงพื้น (เพราะเหตุว่าหนัก) ไม่ว่าด้วยกรณีใด ๆ ก็ตาม

4. หากสรีระของผู้เข้าแข่งขันกีฬายกน้ำหนักไม่สามารถยืดแขนให้ตรงสุดได้ ต้องแจ้งให้คณะกรรมการตัดสินทั้งสามท่านและผู้ควบคุมดูแลการแข่งขันให้ทราบก่อน 

5. อนุญาตให้ใช้เฉพาะผลทากันลื่นที่หน้าขา และฝ่ามือได้ นอกเหนือจากนั้น การใช้แป้ง น้ำ น้ำมัน ไขมัน หรือสิ่งที่ช่วยให้เกิดความลื่นที่หน้าขา ถ้าตรวจพบจะถูกตักเตือนและให้เช็ดออกโดยทันที

หากใครที่สนใจอยากหันมาออกกำลังกายด้วยการยกเวท หรือลูกเหล็กเหมือนการยกน้ำหนักของนักกีฬา ควรจะเริ่มที่น้ำหนักเบาที่สุด และไม่ควรใช้เวลาในการยกนานเกินไปสำหรับมือสมัครเล่น เพราะร่างกายที่ไม่คุ้นชินกับการยกของหนัก อาจทำให้กล้ามเนื้ออักเสบ เจ็บระบมไปหลายวันได้ ควรจะเข้ายิมและให้เทรนเนอร์คอยควบคุมและให้คำแนะนำในการฝึกเล่นจะดีกว่า

เครดิตภาพ : https://pixabay.com/photos/man-person-power-strength-strong-1282232/

post

เรื่องน่ารู้ของกีฬาวอลเลย์บอล

กีฬาวอลเลย์บอล เป็นกีฬาที่ดูคุ้นเคยสำหรับคนไทยมายาวนาน แม้ต้นกำเนิดของกีฬาประเภทนี้จะไม่ได้เริ่มต้นที่ประเทศไทยเราก็ตาม แต่ก็มีผู้นิยมและสนใจวอลเลย์บอลอยู่ไม่น้อย จะเห็นได้จากวิชาพละศึกษาแต่ละโรงเรียนก็มีกีฬาวอลเลย์บอลอยู่ในหลักสูตร หรือแม้จะสนามกีฬาสาธารณะ โรงยิม ก็ยังมีสนามสำหรับการฝึกซ้อมและเล่นกีฬานี้ วอลเลย์บอลเป็นกิจกรรมที่สร้างความสนุกสนานความสามัคคี เพราะเล่นกันเป็นทีม และมีทักษะในการเล่นกับลูกบอลให้โต้ไปยังฝ่ายตรงข้ามได้อย่างมีเสน่ห์ เรามาดูถึงที่มาของกีฬาวอลเลย์บอลและประโยชน์ข้อดีของกีฬาประเภทนี้กัน

จุดเริ่มต้นของวอลเลย์บอล

กีฬาวอลเลย์บอล (Volleyball) ได้เริ่มต้นขึ้นที่ประเทศอเมริกา เมื่อปี ค.ศ. 1895 (พ.ศ. 2438) ที่มีแนวความคิดอยากจะให้ฤดูหนาวมีกีฬากลางแจ้ง เพื่อเป็นการออกกำลังกายและผ่อนคลายอากาศที่เย็นเฉียบยามหิมะตก ไอเดียนี้มาจาก นายวิลเลียม จี. มอร์แกน (William G. Morgan) ผู้อำนวยการฝ่ายพลศึกษาของสมาคม Y.M.C.A. (Young Men’s Christian Association) ในขณะที่กำลังนั่งดูการแข่งขันกีฬาเทนนิส จากเป้าหมายที่อยากให้เป็นการออกกำลังกายสำหรับครอบครัว ไว้เล่นเพื่อความสนุกในยามฤดุหนาว จึงกำหนดให้มีผู้เล่นมากกว่า 1 คน และใช้ลูกตีโต้ตอบกันไปมา โดยไร้อุปกรณ์ตัวช่วย โดยครั้งแรกชื่อของวอลเลย์บอลมีชื่อเดิมว่า มินโทเนตต์ (Mintonette) แต่ก็ได้ถูกปรับเปลี่ยนมาในภายหลัง เพื่อให้ดูเข้ากันกับลักษณะของลูกบอลนั่นเอง

กติกาในการแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอล

– ผู้เล่นจะมีไม่เกิน 12 คน และลงสนามครั้งละ 6 คน อยู่หน้าตาข่าย 3 คน และหลังสนามอีก 3 คน และสามารถเปลี่ยนตัวผู้เล่นจำนวนกี่คนก็ได้ และผู้เล่นที่ถูกเปลี่ยนตัวออก สามารถกลับเข้ามาเล่นใหม่ได้

– การแต่งกายสำหรับผู้เล่นในทีม จะต้องแต่งกายให้เหมือนกันทั้งทีม และจะต้องติดหมายเลขกำกับไว้ที่เสื้อ กำหนดหมายเลขที่ติดเสื้อมีแค่ 1 – 18 เท่านั้น ส่วนกัปตันทีมจะต้องติดแถบผ้าขนาด 8×2 เซนติเมตร ตรงบริเวณอกด้วย

– ในการขอเวลานอก จะได้ครั้งละ 30 วินาที จำนวน 2 ครั้ง ภายใน 1 เซต

– ทุกครั้งที่มีการจบในแต่ละเซต จะต้องมีการเปลี่ยนฝั่ง

– การคิดคะแนน จะนับคะแนนเมื่อลูกตกในเขตสนามของฝ่ายตรงข้าม โดยนับเป็น 1 คะแนน หากฝ่ายใดเสียคะแนน จะต้องเปลี่ยนให้ฝ่ายที่ได้คะแนนเป็นผู้เสิร์ฟลูกบอล

– การแข่งขันจะมีอยู่ด้วยกัน 5 เซต และต้องชนะ 3 ใน 5 เซต จึงจะชนะในเกม ส่วนแต้มคะแนน ทีมไหนทำคะแนนได้ถึง 25 คะแนนก่อน จะเป็นผู้ชนะในเซตนั้น หากมีการเสมอกันอยู่ที่คะแนน 24 เท่ากัน ต้องทำการดิวซ์ (Deuce) เพื่อให้ได้มากกว่าอีกฝ่าย 2 คะแนน

ประโยชน์ของกีฬาวอลเลย์บอล จากข้อมูลสถิติของนักกีฬา กีฬาประเภทนี้ช่วยยืดความสูงให้กับนักเล่นได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะเด็ก ๆ ในวัยที่กำลังโต เพราะแม้จะเห็นว่าไม่ค่อยมีการกระโดดบ่อย แต่ถ้าสังเกตการเล่นดี ๆ จะแฝงไปด้วยทักษะการเขย่ง การดีดตัว เพื่อโต้ลูกบอลไปยังฝ่ายตรงข้าม และไม่ใช่แค่ความสูงของร่างกายที่จะได้มา ยังเป็นการยืดกล้ามเนื้อแทบทุกส่วน ทำให้ร่างกายมีสมรรถนะที่แข็งแรง เผาผลาญพลังงาน เสียเหงื่อแต่ได้สุขภาพดีกลับมา